สบายใจ สบายกระเป๋า


อากาศยามเช้าแสนเย็นสบาย แต่ไม่ได้ซุกผ้าห่มแสนอุ่น เพราะสุดที่รักต้องทำงานแต่เช้า (ฮ้าวว....วววว)

รำลึกอดีตนิดนึง... เมื่อวานจะทำเซอร์ไพร์สุดที่รัก โดยการจะซื้อเค้กไปให้ที่ office กะว่าจะโทรไปเตี้ยมกับพี่ที่ทำงานของสุดที่รักก่อน
เลยโทรเข้า office หวังว่าพี่เค้าจะรับสาย แต่ทว่า.. สุดที่รักเราดันรับโทรศัพท์ซะนิ

"สวัสดีดีค่ะ.........." จำเสียงได้เลย ชัวร์ สุดที่รักเรา ทำไงดีว้า..
นึกได้ตอนนั้นคือแกล้งดัดเสียง "สวัสดีครับ..." (เสียงออกไปทางเป็ด2ขวบ)

"เออ... ขอสายพี่อุ๋ยครับ" พูดไปสั่นไปกลัวสุดที่รักจะจำเสียงได้

"พี่อุ๋ยไม่อยู่ค่ะ...ออกไปปฏิบัติภาระกิจต่างจังหวัด"

โอ้.... ผิดแผนอีกแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะไม่อยู่.... สุดท้ายก็สารภาพกับสุดที่รัก หล่อนก็หัวเราะคิกคักๆ
แต่เราก็ตั้งใจอยู่แล้วว่า ยังไงก็จะซื้อเค้กไปให้น้องๆพี่ๆที่ office เค้า ก็เลยถามว่าวันนี้มีสมาชิกครบไม๊ จะได้เลือกขนาดเค้ก กลัวจะไม่พอทานกัน
หล่อนก็บอกว่าวันนี้ไม่อยู่กันหลายคนเหมือนกันนะ
อ่ะ... อุตส่าห์วันเกิดสุดที่รักทั้งที ที่ office ไม่มีคนอยู่เลยเรอะ กะว่าซื้อไป 1 ปอนด์แล้วกันเดี๋ยวจะเหลือเยอะ
ก็เลยไปดูที่ร้าน แต่ดูแล้วเค้กปอนด์เดียวไม่ค่อยมีให้เลือกเลย มีก็ดูไม่น่าจะอร่อยนัก ก็เลยคิดว่า เอาว่ะเหลือก็กลับไปกินบ้านก็ได้ ชอบอยู่แล้ว กะเลยหยิบ 2 ปอนด์มา
แต่งหน้าด้วยคำพูดหวานๆว่า Happy BirthDay ตามด้วยชื่อสุดที่รัก (หวานตรงไหนเนี๊ยะ???)
จากนั้นก็ตรงบึ่งไป office สุดที่รักทันที...

เค้ก 2 ปอนด์ตอนแรกเล็กไปถนัดตา ไหนบอกว่าวันนี้น้องๆไม่ค่อยอยู่??? เกือบครบองค์ประชุม
สรุปไม่อยู่คนเดียวคือพี่หัวหน้าคนที่ไปต่างจังหวัด ที่เหลืออีก 6-7 คน อยู่ครบ แถมมีน้องฝึกงานอีก 3 คน
นี่ถ้าเอาปอนด์เล็กมา....ฮืม... สงสัยต้องถือช้อนกันคนละคัน สุมหัวแย่งกันตักเค้ก.... อืม..ไม่อยากคิด

หลังเลิกงานแวะไปเดินช๊อปปิ้งแถวห้างดังย่านศรีนครินทร์ ว่าจะไปดูของขวัญให้กับสุดที่รัก ชิ้นไหนอยากได้จ๊ะ เดี๋ยวเหมาให้หมดเลย (ทั้งๆที่ในกระเป๋าตั้งมีอยู่ 6 ร้อย........)
สุดที่รักตั้งใจจะไปดูรองเท้า เพราะคู่ที่ใส่ไปทำงานพังเสียแล้ว ดูไปดูมาไม่ค่อยมีคู่ไหนถูกใจสุดที่รักเลยซักคู่ เลือกอยู่ซักพักสุดที่รักเลยชวนไปดู TV LCD (เอ๊ย.........เหลือบมองกะเป๋าตัง.......)

FEEL กระโดดไปหลายขั้นมาก จากรองเท้าไป ไปเจ้า LCD TV

ใจจริงก็อยากได้ใจจะขาดอยู่ แต่ว่า.........แต่ว่า.......... นึกแต่ว่า....ไม่ออก มันอยากได้นินา....... ก็เลยไปเดินด่อมๆมองๆให้น้ำลายไหลเล่นๆ

"สวัสดีครับ พี่สนใจรุ่นไหนอยู่หรือเปล่าครับ รุ่นนี้ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์นะครับ แถมขาตั้งสวิงได้ หรือจะแท่นติดผนัง..................." ..พนักงานอธิบายให้ฟัง....มาเป็นชุด.....
ไอ้เราก็ยิ้มแหย๋ๆ นึกถึงกระเป๋าตังแฟบๆในมือ

หันไปมองหน้าสุดที่รัก....สุดที่รักชอบใช่ไหมไว้จะซื้อให้นะจ๊ะ.....(คิดในใจ......ยังไม่ทันได้พูด)

สุดที่รักสวนออกมาก่อนว่า "อยากได้ไม๊...."

โอ๊ยยยยย......ถามได้........ที่สุดของที่สุด........(คิดในใจเช่นเดียวกัน...ทั้งที่อยากตะโกนดังๆ
กระดิกหางดิกๆๆๆๆๆ........เหมือนหมาเห็นกระดูก อย่างไรอย่างนั้น)

เท่านั้นแหละ... เข้าทางพนักงานคนที่มาถามเลย..... โปรโมชั่นรุ่นไหนมียังไง.......โอ๊ย...... ฟังไม่ทันหรอก ปล่อยให้สุดที่รักยืนฟัง เรื่องจ่ายตังเนี๊ยะไม่ถนัด...แหะๆๆ....
สุดที่รักโดนกล่อมซะจน พนักงานพาไปทำเรื่องผ่อนสินค้า แต่ก่อนอื่นต้องเช็คก่อนว่าบัตรวงเงินเต็มหรือเปล่า

ไอ้เราก็แอบลุ้น..... อยากได้ก็อยากได้....... แต่ตัวเองอ่ะไม่มีตังให้สุดที่รักซะหมด บัตรเครดิตก็ไม่มี เกาะเมียกินจริงๆเล้ยยย....

เช็คไปเช็คมา วงเงินเต็ม.....เพราะยังไม่ครบรอบบิลของบัตรเลยยังไม่ได้จ่าย สรุปก็เดินตัวเปล่ากลับบ้านอย่างเป็นสุข ประมาณว่า "เดินสบายใจจัง ตังอยู่ครบ"

สงสารก็แต่พนักงานเชียร์คนนั้นจริงๆ..... ยืนอธิบายอยู่ตั้งนาน

หลังจากที่เดินมือเปล่ากลับกันแล้ว ก็แวะทานข้าวกันที่สวนอาหารใกล้ๆ บรรยากาศริมบึง มีแพลอยกลางน้ำ และรอบๆบึง เรือพายรับส่งระหว่างแพ มองเห็นพระจันทร์ ปลายสวายตัวใหญ่ๆ ขึ้นมาลอยคอ รอขนมปัง
พอมีคนโยนเศษขนม มันก็จะ ปีนหัว เหยียบไหล่ ขี่คอ แย่งกันกินเป็นร้อยๆตัว ลองนึกภาพดูว่าในบ่อน้ำ ณ ตรงที่ขนมปังหล่นลงไป มีแค่น้ำที่เปียกตัวปลาเท่านั้นแหละที่เป็นน้ำ ที่เหลือเป็นปลาอย่างเดียว...
และลองนึกดูว่า ถ้าเปลี่ยนจากขนมปังเป็นตัวคุณบ้าง.........
ช่างเป็นบรรยายกาศโรแมนติก มากๆๆๆๆๆ(ถ้าปลาจะน้อยกว่านั้นซักนิด...นึกแล้วขนลุก)

พูดถึงอาหารคนมั่ง... อร่อยมากขอบอก โดยเฉพาะของหวาน "สาคูแคนตาลูบ" ไปทานกัน 2 คนแต่ขอโทษ ของหวานหมดไป 3 ถ้วย....
เอาไปคิดเป็นการบ้านว่าหายไปอยู่ที่ใคร 1 ถ้วย!!!

0 ความคิดเห็น: