เส้นทางรัก

หลังจากเดินเล่นตลาดน้ำ เมื่อตอนเช้าวันเสาร์ ช่วงบ่ายก็เตรียมตัวไปต่างจังหวัดเพื่อไปงานแต่งงานของเพื่อน ม.ปลายอีกคน ที่เพชรบูรณ์

เจ้าบ่าวเกษมและเจ้าสาวแหม่ม



นัดกันกับเพื่อนอีก 2 คน คุณกิติพงษ์กับคุณสุกิจ ว่าจะไปด้วยกัน ทริปนี้ก็เป็นคนขับรถเหมือนตอนเช้า แต่ไม่ใช่รถตัวเอง... เหตุเพราะคุณกิติพงษ์ โดนเสี่ยอ๊อดพาไปตระเวนคลายร้อน หลังจากไปร่วม งานของฉัตฤกษ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้เลยขอตัวนอนพักผ่อนเอาแรงบนรถ



ออกจากเซ็นทรัล บ่าย 2 โมงกว่าๆ ขับออกไปทางถนนวงแหวนตะวันออกมุ่งสู่บางปะอิน เพื่อนร่วมทางนั่งหลับตั้งแต่ ครึ่งทางของถนนวงแหวน ก่อนจะเดินทางวันนี้ก็เตรียมตัวเปิดดูแผนที่ทางไปจาก Google Map ก็ดูไปงั้นๆแหละ ไปง่ายจะตาย จะยากก็ตอนหลงทางเท่านั้นแหละ... ( กลัวหลงซะจริงๆเลย... อยากได้ GPS รอสุดที่รักอนุมัติ )



พอใกล้ถึงบางปะอิน ก็มีโทรศัพท์เข้ามา...

"พวกคุณออกมาจากกรุงเทพหรือยัง.....อยู่แถวไหนแล้ว!!!"

เพื่อนๆที่ไปงานเช่นกัน แต่ว่าออกเดินทางกันไปตั้งแต่เช้าคือ ดิวกับยศ
คุณสุกิจ เป็นคนรับโทรศัพท์ก็บอกว่า "ยังไม่ถึงบางปะอินเลย....."

"เอ๊ยเร็วๆหน่อยซิ.... ก่อนถึงสระบุรีก็ออกเลี่ยงเมืองไม่ต้องผ่านตัวเมืองสระบุรีให้รถติด จะได้มาเร็วๆไม่ค่อยมีรถ แต่ระวังวิ่งขวาก็ดูๆตำรวจด้วย...." ต้นสายแนะนำเส้นทาง

"...ยังไม่ถึงบางปะอินเลย... อีกซักชั่วโมงค่อยโทรมาบอกก็ได้....." คุณสุกิจโต้ตอบไปทันควัน
ไม่รู้จะรีบบอกทำไม...... นึกในใจ

หลังจากนั้นก็ขับต่อกันไปซักพักใหญ่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก

"ถึงไหนกันแล้วว่ะ...."

ในใจคิดว่า มันนึกว่าขับเครื่องบินไปหรือไงฟร่ะ.... ยังไม่ทันถึงไหนเลย... โทรมาถามอีกแล้ว
จะรีบไปไหนกัน... น่าจะยืมเครื่องบินฉัตฤกษ์มาขับไปเพชรบูรณ์ซะก็ดี

ระยะทางก็ไกลอยู่เหมือนกัน โชคดีที่รถน้อยไม่ค่อยติดเท่าไหร่ จึงไปถึงที่พักประมาณ 5 โมงเย็น

ที่พักชื่อว่าโรงแรมปิยะมิตร



ดูจากด้านนอกก็คล้ายๆกับรีสอร์ทปรกติธรรมดา แต่พอเลี้ยวรถเข้าไป



....แค่คิดเฉยๆ ยังมิทันพูดอะไร สุกิจก็ทักขึ้นมาก่อนว่า "ทำไมห้องพักมันเหมือนม่านรูดจังว่ะ..."
อืม... นั่นดิ...

แต่เป็นแค่ด้านหน้าของรีสอร์ทเท่านั้น ส่วนด้านในก็มีบ้านพักเป็นหลังๆ
ที่พักค่อนข้างสวยและใหม่ แล้วก็บ้านพักที่พวกเราพักนั้น ดูเมื่อจะเพิ่งทำเสร็จเพราะดูจากการเดินสายไฟมาที่บ้านพัก... ยังลากอยู่กับพื้นอยู่เลย



แต่รวมๆก็สวยดี ใช้ได้ๆ ด้านหลังห้องพักติดแม่น้ำ ถ้าเป็นฤดูที่มีน้ำเยอะคงจะสวยมากทีเดียว



แต่วันนี้น้ำออกจะแห้งไปซักหน่อย ก็เป็นที่น่าสงสัยว่า ละแวกแถวนั้นไม่น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ทำไมมีรีสอร์ทมาตั้งแถวนี้...
( แอบไปเอารูปมาจากเว็บไซท์ของโรงแรมเค้า ไม่ได้ไปถ่ายเอง... )

ยังไม่ทันได้หายเมื่อยหลังจากขับมือเดียวมาถึงเพชรบูรณ์

"เอ๊ย...ไปช่วยยกต้นไม้กันหน่อยดิ.... ไม่มีคนช่วยเลย" ว่าที่เจ้าบ่าวเอ่ยปาก

ว่าแล้วเชียว... ไอ้ที่โทรไปเร่งยิกๆๆ ก็อยากให้มาช่วยงานเร็วๆซะงั้น
แล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังบ้านงาน



ไปถึงบ้านงาน ก็ช่วยกันเตรียมจัดต้นไม้ แขวนรูปหน้างาน จัดโต๊ะวางกล่องใส่ซอง ระหว่างนั้นก็มีสมาชิกเดินทางมาสมทบอีก 2 คน พี่นคร กับ ชวลิต ก็โดนเรียกมาช่วยกันทำซะเลย
ก็จัดนู่นจัดนี่ไป จนเเพื่อนคนนึงทักขึ้นมาว่า

"เสร็จหรือยัง จะได้กลับไปนอน... จะ 4 ทุ่มแล้ว"

เอ๊ย...แป๊ปเดียวเอง...จะ 4 ทุ่มแล้ว?

ระหว่างกลับก็แวะซื้อเสบียง กะว่าจะกลับไปตั้งวงคุยกันซะหน่อย ตอนแรกเห็นบอกว่าจะมีตั้งวงไพ่ด้วย แต่ว่าสมาชิกวงไพ่มีน้อย (พี่นคร ชวลิต กิติพงษ์) เลยสรุปว่าล้มวงไพ่ เหลือแต่วงเบียร์แทน

ตามประสาคนอายุใกล้ 40 ก็นั่งคุยกันแต่เรื่องตอนสมัยเรียนทำวีระกรรมอะไรบ้าง เริ่มดึกขึ้นอีกนิด เบียร์หมดไปอีกขวด เริ่มเกี่ยวกับเรื่อง อกหักรักคุดตุ๊ดเมิน พอกับแกล้มเริ่มหมด เหลือแต่เบียร์เพียวๆ ก็คุยเรื่องธรรมะ กฎแห่งกรรม..... นี่ถ้าตอนเช้าไม่ได้ไปงานแต่ง... สงสัยคงคุยกันจนชวนกันไปบวชไม่สึกเป็นแน่...

อากาศไม่ค่อยจะเย็นเท่าไหร่แต่ทำไมน้ำให้ห้องน้ำถึงหนาวเหลือเกิน โชคดีที่ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ก็ยังมีบางคนซักแห้ง....

วันรุ่งขึ้นก็มีเพื่อนมาสมทบกันอีก 3 คน คุณชัยยันต์ คุณชลรัฐ แล้วก็คุณอมรเทพ
ไปถึงบ้านงานประมาณ 6.30 เจอเจ้าบ่าวสุดหล่อ แล้วก็เกณฑ์ให้ไปช่วยถือของในขบวนขันหมาก ด่อมๆมองๆจะจองถืออะไรดี สุดท้ายได้ต้นกล้วย แล้วก็ไปยืนหน้าขบวนเลย เริ่มเคลื่อนขบวนก็ประมาณ 6.59

เสร็จพิธีเช้าก็ประมาณ 8 โมง เจ้าภาพมีอาหารเช้าเลี้ยงแขกเป็น ข้าวต้มเครื่อง และที่ขาดไม่ได้ ไก่ย่าง วิเชียรบุรี หมดไป 3 จาน

หลังจากนั้นก็นั่งคุยกันซักพัก ก่อนจะกลับไปนอนพักผ่อนที่โรงแรมกันต่อ เพื่อรองานช่วง 10 โมง...

10 โมงแล้ว แต่ยังไม่ได้ออกไปกันเลย เพราะว่ายังง่วงๆกันอยู่ กว่าจะได้ไปจริงๆก็ 11 โมงได้ ไปถึงก็รอกิน นั่งคุยไปกินไปจนเกือบ บ่าย 2 ก็ถึงเวลาที่จะไปเข้าโบสถ์ทำพิธีทางศาสนาคริสต์
จากบ้านงานไปอีกไกลพอควร ประมาณ 10 กิโล ผ่านทุ่งนาหมู่บ้าน มานั่งคุยกันว่าแถวนี้มีโบสถ์ด้วยรึ? แถมระหว่างทาง ไม่ค่อยจะมีสัญญาณมือถืออีกต่างหาก



ยิ่งขับไปก็ยิ่งนึกว่าพวกเราหลงกันหรือเปล่าเนี๊ยะ รู้งี้ขับออกมาพร้อมขบวนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวซะก็ดี เพราะว่าตอนออกมาคิดว่าคงจะไปง่ายๆ สุดท้ายก็ถึงจนได้นึกว่าหลงซะแล้ว....




พิธีก็เรียบๆง่ายๆ คล้ายๆกับดูหนังฝรั่งตอนเค้าแต่งงานกันในโบสถ์ ฝ่ายสนับสนุนค่อนข้างจะซาบซึ้ง นั่งอยู่เก้าอี้ด้านหลังหลับตาอยู่ในความสงบกันเกือบทุกคน ( ผงกหัว..หงึกๆ ดีที่ไม่กรน... )





หลังพิธีก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วก็แยกย้ายกันกลับ ออกจากเพชรบูรณ์ ประมาณ 4 โมง ระหว่างทางก็แวะตัวเมืองสระบุรี ซื้อของฝากเล็กน้อย ถึงกรุงเทพก็สองทุ่มกว่าๆได้หล่ะมั้ง

เป็นฝั่งเป็นฝาไปอีก 1 คู่ รอดูว่าคู่ต่อไปจะเป็นใคร

0 ความคิดเห็น: